ทฤษฎีพัฒนาการ
ที่
|
ทฤษฎี
|
แนวคิด
|
กุญแจสำคัญ
|
ลำดับขั้น
|
การบระยุกต์ใช้ในห้องเรียน
|
1
|
ฟรอยด์
|
บุคลิกภาพ
|
พฤติกรรมของ- ผู้ใหญ่จะดีหรือไม่ดีให้ย้อนไปดูพฤติกรรมในวัยเด็กอายุ
0-6 ขวบ (Criticle period)
|
ขั้นความพึงพอใจมี 5 ขั้น
|
1.ครูควรจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นหลัก
3.ครูควรจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับการดำรงชีวิตประจำวันของเด็ก
|
2
|
อีริคสัน
|
บุคลิกภาพ
|
การสร้างฐานแต่ละฐานให้แข็งแกร่งตั้งแต่ขั้นแรกจนถึงขั้นสุดท้าย
เปรียบเสมือนการสร้างบ้านที่จะต้องมีฐานที่แข็งแรงและมั่นคง
เพื่อที่จะได้บ้านที่สวยงามแข็งแรงและมั่นคง
|
พัฒนาการมี8ขั้น
|
1. ครูควรจัดกิจกรรมให้เด็กรู้จักเอกลักษณ์ของตนเอง
2.ครูควรเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียน
3.ครูควรจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนเรียนรู้เกี่ยวกับความใกล้ชิดผูกพันของคนใกล้ตัว
|
3
|
โรเบิร์ต เจ
|
พัฒนาการตามวัย
|
งานพัฒนาการ
เป็นงานที่มนุษย์ทุกคนจะต้องทำในแต่ละวัยของชีวิต
สัมฤทธิ์พลของงานพัฒนาการแต่ละวัยมีความสำคัญมาก เพราะจะเป็นรากฐานของการเรียนรู้งานพัฒนาขั้นต่อไป
|
พัฒนาการมี3 ระดับ 6 ขั้น
|
1.ครูควรจัดการเรียนการสอนเกี่ยวกับศีลธรรม จรรยา
มารยาท
2. ครูควรให้รางวัลกับเด็กที่ทำความดีและทำโทษกับเด็กที่ทำความผิด
3. ครูควรเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน
|
4
|
โคเบิร์ก
|
จริยธรรม
|
การพัฒนาการจริยธรรมของเด็กและ- ผู้ใหญ่ในแต่ละระดับขึ้นอยู่กับระดับในการวิเคราะห์
|
ลำดับขั้นพัฒนาการจริยธรรมมี 6 ขั้น
|
1. ครูควรจัดกิจกรรมให้เด็กมีพฤติกรรมที่ถูกที่ควรเกี่ยวกับระเบียบประเพณี
2. ครูควรจัดกิจกรรมให้เด็กมีพฤติกรรมที่ถูกที่ควรเกี่ยวกับจริยธรรม
3. ครูจัดกิจกรรมให้เด็กแสดงความคิดและสินใจว่าพฤติกรรมใดถูกหรือผิด
|
5
|
เพียเจต์
|
สติปัญญา
|
เด็กจะเกิดการพัฒนาสติปัญญาได้ก็ต่อเมื่อมีการปฏิสัมพันธ์(Interaction)กับสิ่งแวดล้อม(Environment)
|
พัฒนาการมี 4 ขั้น
|
1. นักเรียนที่มีอายุเท่ากันอาจมีขั้นพัฒนาการทางสติปัญญาที่แตกต่างกันนักเรียนแต่ละคนจะได้รับประสบการณ์
2 แบบคือ
- ประสบการณ์ทางกายภาพ (physical experiences) - ประสบการณ์ทางตรรกศาสตร์ (Logicomathematical experiences) 2. หลักสูตรที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญาของเพียเจต์ ควรมีลักษณะดังต่อไปนี้คือ - เน้นพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน - เสนอการเรียนการเสนอที่ให้ผู้เรียนพบกับความแปลกใหม่ - เน้นการเรียนรู้ต้องอาศัยกิจกรรมการค้นพบ - เน้นกิจกรรมการสำรวจและการเพิ่มขยายความคิดในระหว่างการเรียนการสอน 3. การสอนที่ส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียนควรดำเนินการดังต่อไปนี้ - ชี้ระดับพัฒนาการทางสติปัญญาของนักเรียนจากงานพัฒนาการทางสติปัญญาขั้นนามธรรมหรือจากงานการอนุรักษ์ เพื่อดูว่านักเรียนคิดอย่างไร - ยอมรับความจริงที่ว่า นักเรียนแต่ละคนมีอัตราพัฒนาการทางสติปัญญาที่แตกต่างกัน - ผู้สอนต้องเข้าใจว่านักเรียนมีความสามารถเพิ่มขึ้นในระดับความคิดขั้นต่อไป - ตระหนักว่าการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นเพราะจดจำมากกว่าที่จะเข้าใจ เป็นการเรียนรู้ที่ไม่แท้จริง (pseudo learning) |
6
|
บรูเนอร์
|
สติปัญญา
|
Discovery
learningการเรียนแบบสืบสวน สอบสวน
|
พัฒนาการมี 3 ขั้น
|
1.ผู้เรียนต้องมีแรงจูงใจภายใน
มีความอยากรู้ อยากเห็นสิ่งต่างๆรอบตัว
2. การจัดลำดับความยาก-ง่ายของบทเรียนโดยคำนึงถึงพัฒนาการทางสติปัญญาของผู้เรียน
3. การเสริมแรงของผู้เรียน
|
ที่
|
ทฤษฎี
|
แนวคิด
|
กุญแจสำคัญ
|
ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ในชั้นเรียน
|
1.
|
พาฟลอฟ
|
การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค
|
Type S
(สิ่งเร้าเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดพฤติกรรม)
|
ครูเพ็ญเป็นครูสอนวิชาภาษาอังกฤษ
เขาเป็นครูที่ดุ เมื่อถึงคาบเรียน นักเรียนจะรู้สึกกลัวไม่อยากเข้าเรียนวิชานี้
วันหนึ่งครูเพ็ญสังเกตเห็นนักเรียนเริ่มไม่ตั้งใจเรียน สีหน้าวิตกกังวล
ครูเพ็ญจึงหากิจกรรมมาให้เด็กๆทำ พอถึงคาบวันต่อมาครูเพ็ญสอนเนื้อหาในรายวิชาพร้อมให้นักเรียนทำกิจกรรม
ทำให้นักเรียนรู้สึกอยากเรียนและเกิดความรู้สึกอยากเข้าใกล้ครูมากขึ้น
|
2.
|
วัตสัน
|
การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิค
|
Type S
|
หนูแดงเป็นคนที่ชอบปั้นดินน้ำมัน
วันหนึ่งหนูแดงนั่งปั้นดินน้ำมันอยู่
มีเพื่อนคนหนึ่งปาดินน้ำมันก้อนใหญ่โดนหัวหนูแดง วันต่อมาเพื่อนก็ปาใส่อีก
และหนูแดงก็โดนเพื่อนปาดินน้ำมันใส่อีกหลายๆครั้ง ทำให้หนูแดงไม่กล้านั่งปั้นดิน น้ำมันอีก
วันหนึ่งครูฟ้าเรียกหนูแดงให้มานั่งปั้นดินน้ำมันพร้อมกับบอกเด็กๆว่า
“ดินน้ำมันไม่ใช่สิ่งของที่ไว้ปาเล่นน่ะค่ะ ดินน้ำมันเป็นสิ่งที่เขาเอาไว้ปั้นเป็นรูปต่างๆ
เด็กๆห้ามปาเล่นอีกน่ะค่ะ ไม่งั้นครูจะทำโทษ”
หลังจากวันนั้นหนูแดงเริ่มรู้สึกมั่นใจว่าจะไม่มีใครปาใส่อีกแล้ว
ทำให้หนูแดงเริ่มกลับมาชอบการปั้นดินน้ำมันเหมือนเดิมและมีความสุขกับการปั้นดินน้ำมันเป็นรูปต่างๆ
|
3.
|
สกินเนอร์
|
ทฤษฎีการเรียนรู้แบบลงมือทำ
|
การกระทำใดๆถ้าได้รับการเสริมแรงจะมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น
ส่วนการกระทำที่ไม่เสริมแรงมีแนวโน้มที่การกระทำนั้นๆจะลดลงและค่อยๆหายไป
|
น้องเมย์เป็นเด็กที่ชอบตอบคำถามเวลาครูถาม
เพราะเวลาตอบแล้วจะได้รางวัล
เวลาน้องเมย์ตอบคำถามทุกครั้งน้องเมย์จะได้รางวัลจากครู
แต่ช่วงหลังๆเวลาตอบคำถามครูจะไม่ค่อยให้รางวัลจึงทำให้น้องเมย์ไม่ตั้งใจเรียนและรู้สึกไม่อยากตอบคำถามที่ครูถาม
|
4.
|
ธอร์นไดค์
|
ทฤษฎีการสัมพันธ์เชื่อมโยง
|
Type S – R
Step 1 เรียนรู้แบบลองผิดลองถูก (Trial and Error)
Step 2 เชิ่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนอง
(S – R Bond)
|
ครูให้ลูกเกดเขียน ก-ฮ ตามรอยประ เพื่อแสดงพฤติกรรมลองผิดลองถูก
ทดลองครั้งที่
1 ลูกเกดลองผิดลองถูกด้วยการเขียนตัวอักษรจากหางมาหัว
ทดลองครั้งที่
2ลูกเกดลองผิดลองถูกด้วยการเขียนตัวอักษรบางตัวด้วยการเริ่มจากหางมาหัวและบางตัวเริ่มจากหัวมาหาง
ทดลองครั้งที่
3 ลูกเกดเห็นครูสอนน้องบีว่าจะต้องเริ่มเขียนจากหัวไปก่อนเป็นวิธีเขียนที่ถูกต้อง
ลูกเกดจึงเกิดการเรียนรู้และจดจำว่าการเขียนตัวอักษรที่ถูกวิธีนั้นจะต้องเริ่มจากหัวก่อน
|
5.
|
แบนดูรา
|
ทฤษฎีการเรียนรู้ทางสังคมพุทธิปัญญา
|
การเรียนรู้ของมนุษย์ส่วนมากเป็นการเรียนรู้โดยการสังเกตหรือการเลียนแบบ
|
น้องเจมส์เป็นเด็กที่เกเร
และไม่ตั้งใจเรียน เพื่อนๆในห้องจึงไม่มีใครอยากคบกับน้องเจมส์
ครูมาลีจึงบอกน้องเจมส์ว่า ถ้าน้องเจมส์อยากมีเพื่อน น้องเจมส์ต้องตั้งใจเรียน
และไม่เกเรน่ะค่ะ แล้วเพื่อนๆก็จะกลับมาคบกับน้องเจมส์
หลังจากวันนั้นน้องเจมส์ก็ไม่เกเรและตั้งใจเรียนทำให้เพื่อนๆกลับมาคบกับน้องเจมส์และน้องเจมส์ก็ยังเป็นที่รักของเพื่อนๆอีกด้วย
|
6.
|
เกสตัลท์
|
ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มปัญญานิยม
|
การรับรู้ (perception)
และนำไปสู่การหยั่งเห็น
(Insight)
|
หนูนิดอยากระบายสี
จึงไปหยิบสีและสมุดระบายสีบนตู้ แต่หนูนิดหยิบไม่ถึง หนูนิดพยายามอยู่หลายวิธี
แต่ก็หยิบไม่ได้สักที หนูนิดหันไปเห็นเก้าอี้วางอยู่
จึงลากเก้าอี้และปีนขึ้นไปหยิบสี และ สมุดระบายสี จนได้ระบายสีอย่างที่ตัวเองต้องการ
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น